ประโยชน์ของคาร์ซีทคืออะไร มีวิธีในการเลือกซื้ออย่างไร ?

เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้ การเตรียมความพร้อมไว้ก่อน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะพ่อแม่ที่ต้องพาลูกน้อยเดินทางโดยรถยนต์เป็นประจำ ยิ่งควรต้องระมัดระวังในการขับขี่ และที่สำคัญคือการติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเด็ก ๆ ลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้มากยิ่งขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา และยังถูกต้องตามกฎหมายด้วย

4 เหตุผลดี ๆ ที่ควรติดตั้งคาร์ซีท

การติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ คือสิ่งที่พ่อแม่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งประโยชน์ของการติดตั้งคาร์ซีทมีอยู่หลากหลายประการ ดังนี้ 

เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

เหตุผลประการแรกที่ควรติดตั้งคาร์ซีตในรถยนต์ คือเพื่อเพิ่มปลอดภัยให้แก่ลูกหลาน เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คาร์ซีทจะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บรุนแรง หรือเสียชีวิต โดยการยึดตัวเด็กไว้อย่างมั่นคงและกระจายแรงกระแทกอย่างเหมาะสม

เสริมสร้างวินัยให้แก่เด็ก

อีกหนึ่งประโยชน์ที่จะได้รับจากการติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ คือช่วยสร้างวินัยที่ดีให้แก่เด็ก โดยเป็นการทำให้เด็กเข้าใจกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน และเรียนรู้ที่จะอดทนกับการนั่งอยู่ในที่ของตนเองเป็นเวลานาน ๆ ไม่ผุดลุกผุดนั่ง หรือเคลื่อนที่ไปมาภายในรถอีกด้วย

ดูแลเล็กได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์อีกด้านหนึ่งของการให้เด็กนั่งคาร์ซีท คือช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเด็กได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถติดตั้งในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ง่าย โดยไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะลุกขึ้นยืน หรือเล่นซน จนเสียสมาธิในการขับขี่รถยนต์ได้

ถูกต้องตามกฎหมาย

สิ่งสำคัญประการสุดท้าย คือประเทศไทยมีกฎหมายบังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีทระหว่างการโดยสารรถยนต์ ยกเว้นกรณีที่เป็นรถยนต์โดยสารสาธารณะ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ดังนั้นการติดตั้งคาร์ซีทจึงไม่เพียงแต่เพื่อความปลอดภัย แต่ยังเป็นการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย

วิธีเลือกคาร์ซีทมาเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกรัก

เลือกจากอายุ น้ำหนัก ขนาดตัว

ปัจจัยแรกในการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับลูกน้อย คือต้องคำนึงถึงอายุ น้ำหนัก และขนาดตัวเป็นหลัก เพราะคาร์ซีทแต่ละประเภทออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กในช่วงวัยที่แตกต่างกัน แบ่งออกได้เป็น ดังนี้

• แรกเกิด – 12 เดือน ควรเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด แบบนั่งหันหน้าเข้าเบาะ เนื่องจากช่วงวัยนี้ คอและศีรษะของเด็กยังค่อนข้างบอบบาง การที่คาร์ซีทหันไปทางหลังรถ จะช่วยรองรับแรงกระแทกได้

• สำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี และน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม ควรเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก ที่สามารถปรับให้หันหน้าไปทางด้านหลังรถ เพื่อลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ

• เด็กอายุ 2-6 ปี และน้ำหนักไม่เกิน 10-25 กิโลกรัม สามารถใช้คาร์ซีทแบบหันหน้ามาทางด้านหน้ารถได้ มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัย ช่วยยึดตัวเด็กไว้ และลดแรงกระแทก 

• เด็กอายุ 4-12 ปี ที่มีส่วนสูงเกินกว่าเบาะของคาร์ซีทแล้ว ควรใช้บูสเตอร์ซีทแทน เพื่อช่วยยกตัวเด็กให้สูงขึ้น โดยสามารถใช้งานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยปกติ

เลือกลักษณะการติดตั้งที่ตอบโจทย์การใช้งาน

ในส่วนของลักษณะการติดตั้งคาร์ซีท เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา โดยแบ่งออกได้ ดังนี้

• ระบบ ISOFIX ที่ช่วยให้ติดตั้งคาร์ซีทได้ง่ายและแน่นหนา เหมาะสำหรับครอบครัวที่ใช้รถยนต์เป็นประจำ

• ระบบยึดด้วยเข็มขัดนิรภัย เป็นการติดตั้งคาร์ซีทที่เหมาะกับรถที่ไม่มีระบบ ISOFIX หรือสำหรับการใช้งานชั่วคราว 

ทั้งนี้ ควรเลือกวิธีการติดตั้งที่เหมาะกับรถยนต์ และสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของแต่ละครอบครัว

เลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน

ปัจจัยสำคัญประการสุดท้าย คือควรเลือกคาร์ซีทจากแบรนด์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มอก.3418-2565 โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานสากล FMVSS ECE R44/04 ECE R44/04 หรือ ECE R129 (i-Size) จากยุโรป

ป้ายยา 3 แบรนด์คุณภาพ ตอบข้อสงสัยคาร์ซีทยี่ห้อไหนดี

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกคาร์ซีทยี่ห้อไหนดีให้ลูกใช้งาน เรามีคาร์ซีทคุณภาพ จากแบรนด์ดังซึ่งเป็นที่นิยมมาแนะนำกัน ดังนี้

Chicco

Chicco Nextfit Zip Max Air Car Seat  คาร์ซีทเด็กแรกเกิดสัญชาติอิตาลี เหมาะสำหรับเด็กในวัยแรกเกิดจนถึงอายุ 7 ปี ใช้งานได้ยาวนาน รองรับน้ำหนักได้ถึง 29 กิโลกรัม ปรับเอนนอนได้ถึง 9 ระดับ และมีผ้าที่ช่วยระบายอากาศได้ดีด้วยเทคโนโลยี 3D AirMesh  ตัวโครงสร้างเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง ผ่านการทดสอบมาตรฐาน FMVSS ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว และสามารถติดตั้งกับเบาะรถด้วย Latch หรือ Isofix รวมถึงสายเข็มขัดนิรภัยที่มากับรถยนต์ได้อีกด้วย

Graco

Graco Turn2Me™ 3-in-1 Rotating Car Seat คาร์ซีทแบบ 3 in 1 ใช้งานได้ 3 โหมด คือโหมดเบาะนั่งหันหลัง โหมดเบาะนั่งหันหน้า โหมด Booster และหมุนได้ 360 องศา เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดที่ใช้งานได้นานถึง 10 ปี รองรับน้ำหนักได้มากถึง 45.4 กิโลกรัม  ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยการป้องกันแรงกระแทกรอบด้าน จาก Graco® ProtectPlus Engineered™ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการทดสอบการชนที่เข้มงวดที่สุด โดยจะช่วยปกป้องลูกน้อยจากการชนทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และการพลิกคว่ำ

Cozy N Safe

Cozy N Safe COMET คาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่สามารถหมุนได้ 360 องศา และผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล  ECE R44 จากสหภาพยุโรป และยังผ่านมาตรฐานทดสอบ SIP (Side Impact Protection) ปกป้องแรงกระแทกจากด้านข้างเพิ่มด้วย

 

ทั้งหมดนี้ คงทำให้รู้แล้วว่าประโยชน์ของคาร์ซีทคืออะไร และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหา คาร์ซีทแรกเกิด หรือช่วงวัยต่าง ๆ ที่ Kiddo Pacific ร้านขายคาร์ซีทแรกเกิด และเด็กแต่ละช่วงวัย หลากหลายแบรนด์ชั้นนำ โดยคัดสรรสินค้าคุณภาพดี การันตีความครบครัน มีให้เลือกหลายรูปแบบ สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ พร้อมรับสินค้าภายใน 1-3 วันได้เลย !

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง “คาร์ซีท” ยกเว้นรถรับจ้าง-รถสาธารณะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567
   จาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/330763