อุบัติเหตุรถยนต์กับเด็ก คาร์ซีท GRACO ช่วยปกป้องลูกน้อย
อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด เราไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไรจะเกิดขึ้นกับตัวเรา ครอบครัว หรือคนที่เรารัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากอุบัติเหตุเกิดกับลูกน้อยของเรา คนเป็นพ่อ เป็นแม่ คงยากที่จะทำใจเห็นลูกน้อยบาดเจ็บ
หรือแม้กระทั่งเกิดเหตุ ที่มีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสีย นั่นคือสิ่งที่พ่อ และ แม่หลายท่าน ไม่อยากให้เกิดขึ้น
กับครอบครัว และ ลูกน้อย แต่อย่างที่บอกไป อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เกิดขึ้นแบบกระทันหัน ไม่ทันตั้งตัว โดยอุบัติเหตุหลัก ที่เป็นสาเหตุ
ของการคร่าชีวิตของคนไทย ยังเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่มีปริมาณการเกิดอุบัติเหตุเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และ เป็นอันดับ 2 ของโลก
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า จะเดินทางออกไปข้างนอกแต่ละครั้ง พ่อแม่ถึงกลัว และ คำนึงถึงความปลอดภัยจากอุบัติเหตุของลูก เป็นอย่างมาก
และข้างล่างนี้ คือภาพเหตุการณ์ การเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง ของการเดินทางโดยรถยนต์ ที่มีผู้โดยสาร เป็นเด็กเล็ก และได้นั่งอยู่บนคาร์ซีท ที่นั่งบนรถ สำหรับเด็ก
อุบัติเหตุรถยนต์กับเด็ก
เกรโก้ได้รับรายงานจากผู้ใช้รายหนึ่ง ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา
เธอ และ สามีของเธอไ ด้โดยสารไปพร้อมลูกชายวัย 2 ขวบ และ ลูกสาวคนเล็กวัย 5 สัปดาห์
อุบัตินี้ในครั้งนี้ สร้างความเสียหาย ทำให้แผงรถยนต์ด้านหน้า และ ด้านข้างพังเสียหายยับเยิน
เธอ และ สามีต้องเข้ารับการรักษาตัว และ พักฟื้นเป็นเวลานาน โดยสามีของเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดมากกว่า 7 ครั้ง
ใน 6 สัปดาห์ต่อมา อย่างไรก็ตาม ลูกทั้งสองคนนั้นปลอดภัย เพราะมีคาร์ซีทช่วยปกป้องไว้ได้
โดยลูกสาวคนเล็กยังคงหลับ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนลูกชายมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยจากเศษกระจก
เธอรู้สึกขอบคุณมาก ที่คาร์ซีทช่วยปกป้องชีวิตของเด็ก ๆ และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ที่ให้ให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีท โดยสารไปกับรถตลอดการเดินทาง นี้เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด
ที่ช่วยปกป้องลูกน้อยทั้งสองคนไว้ได้ อย่างปลอดภัย
รักลูก ให้ลูกนั่งคาร์ซีททุกครั้งตลอดการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดต่อคนที่คุณรัก : KiddoPacific
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คาร์ซีท เป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยให้เด็ก ๆ รอดชีวิต จากอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนน
และไทยเอง ก็ได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับคาร์ซีท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากตามสถิติข้อมูลของอุบัติเหตุบนท้องถนน
พบว่า มีเด็ก ๆ ในช่วงอายุระหว่าง 1-14 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บนท้องถนน มากกว่า 9.52% อยู่ในอันดับที่ 5 จาก 6
อันดับช่วงอายุ แต่ข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่เด็กในช่วงอายุดังกล่าว จะเดินทางไปที่ต่าง ๆ ด้วยการขับรถไปเอง
เมื่อเทียบกับอายุช่วง อื่น ๆ ที่ขับออกไปเองได้กลับเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองได้มากกว่า ถ้ามาคิดเปรียบเทียบ ถือว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุ
ในเด็กนั้น ค่อนข้างสูง และเกิดจากการโดยสารเพียงอย่างเดียว เป็นสิ่งที่น่าตกใจ และควรตระหนัก เรื่องของการอุปกรณ์เซฟตี้เด็ก
ที่มีมาตรฐาน ที่จะช่วยปกป้องเด็ก จากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
อุบัติเหตุรถยนต์กับเด็ก : กฎหมายคาร์ซีท ของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ออกพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13)
โดยมีเนื้อหา เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยของผู้ใช้รถ ใช้ถนน ทั้งผู้ขับขี่เอง และ ผู้โดยสาร
โดยตัววัตถุประสงค์ ในการออกกฎหมายครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย
ตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์ ซึ่งนอกเหนือจากการบังคับให้ผู้ใหญ่ทุกคนต้องรัดเข็มขัดนิรภัยแล้ว
ในส่วนของเด็ก ๆ เองก็มีการออกกฎหมายให้เด็ก ๆ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยเช่นกัน โดยกำหนดไว้ว่า
- เด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก
- เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตรต้องรัดเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง
- ซึ่งกฎหมายข้อดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 5 กันยายน 2565 และถ้าหากมีการฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าว
จะมีผลปรับ 2000 บาท
- โดยในช่วงแรกนั้น จะยังไม่ทำการปรับจริง เนื่องจากจะเป็นการเตือน เพื่อแจ้ง และ ทราบ ให้ปฏิบัติตามก่อน
ทั้งนี้ หลักการณ์สำคัญ ของการออกกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่ได้ต้องการดำเนินการเพื่อสร้างภาระเพิ่มเติม ให้กับประชาชน
แต่เป็นการสร้างมาตรฐาน และ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถ ใช้ถนน ทุกท่าน แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็ต่างมีกฎหมายการคาดเข็มขัด
และคาร์ซีท เพื่อความปลอดภัย ของทั้งผู้ใหญ่ และ เด็ก เพื่อเป็นแนวทาง ในการป้องกัน ให้ไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือ เกิดน้อยที่สุด
เพื่อลดโอกาส ในการเกิดการบาดเจ็บ รวมถึง ลดจำนวนของผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางรถยนต์