กฎหมาย “คาร์ซีท” ของไทยให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง หากไม่ปฏิบัติ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท มาเทียบกฎหมายบังคับใช้เเละบทลงโทษ 14 ประเทศ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 บัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ โดยสาระสำคัญคือ ให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง “คาร์ทซีท”
ซึ่งทาง พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2565 ประกาศใช้มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กในมาตรา 123 กล่าวว่า เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือผู้โดยสารที่สูงไม่เกิน 135 ซม.ต้องนั่งคาร์ซีท บูสเตอร์ซีท หรือคาดเข็มขัดนิรภัย หากไม่ปฏิบัติ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และจะมีผลในอีก 120 วันข้างหน้า หรือวันที่ 5 กันยายน 2565
และจริงๆแล้ว“คาร์ซีท” ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีเมื่อมีการนำบุตรหลานออกเดินทางทั้งใกล้หรือไกล เพราะจะสามารถปกป้องและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้กับเด็ก ได้เปรียบเสมือนเข็มขัดนิรภัยในผู้ใหญ่นั่นเอง
5 วิธี ฝึกลูกนั่งคาร์ซีท นั่งคาร์ซีทยังไงให้ปลอดภัย
Chicco Nextfit Zip Max Car Seat – คาร์ซีทเด็กแรกเกิด ผ่านมาตราฐานการรับรอง FMVSS
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า การใช้ “คาร์ซีท” ช่วยลดการเสียชีวิตของเด็กได้ถึงร้อยละ 70 ปัจจุบัน 96 ประเทศทั่วโลกจะมีกฎหมายบังคับใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กแล้ว
ดังนั้นคาร์ซีทแบรนด์ชั้นจากหลายๆประเทศจึงเป็นคาร์ซีทที่คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้เพราะว่ามีการรับรองว่าผ่านมาตราฐานความปลอดภัยต่างๆมากมาย
มาตราฐานความปลอดภัยในคาร์ซีท
การเลือกซื้อคาร์ซีทหนึ่งตัวนั้น นอกจากไลฟ์สไตล์ คุณสมบัติ และความสะดวกสบายในการใช้งานที่ต้องคำนึงแล้ว อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าคาร์ซีทตัวนั้นมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะช่วยปกป้องลูกน้อย สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากที่สุดคือคาร์ซีทตัวนั้นได้รับการทดสอบ ผ่านมาตรฐานทดสอบ และรับรองว่าปลอดภัยหรือไม่ นั้นก็คือมาตรฐานสากล ที่เป็นการรับประกันว่าได้คาร์ซีทได้ผ่านการทดสอบที่ได้มาตรฐานมาแล้