การชนด้านข้างคาร์ซีท - ความปลอดภัยกับเทคโนโลยี - Kiddo Pacific

การชนด้านข้างคาร์ซีท – ความปลอดภัยกับเทคโนโลยี

การชนด้านข้างคาร์ซีท

การชนด้านข้างคาร์ซีท – ความปลอดภัยกับเทคโนโลยี

                แน่นอนอยู่แล้วว่า การใช้งานคาร์ซีทนั้น  เกิดจากการกำหนดกฎหมายของการใช้งาน เป็นเบื้องต้น เนื่องด้วยว่าเมื่อเด็ก ๆ ต้องเดินทางโดยสาร ไปกับรถยนต์โดยสารนั้น มีความเป็นต้องใช้คาร์ซีทให้กับเด็ก ๆ ที่อายุไม่เกิน 6 ปี เพราะเบาะโดยสารรถแบบผู้ใหญ่นั้น และ สายคาดนิรภัยนั้น ยังไม่เหมาะกับสรีระของเด็ก อายุไม่เกิน 6 ปี ด้วยความไม่พอของเบาะกับเด็กนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือ อุบัติเหตุขึ้นนั้น ทำให้มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก ที่จะเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิต หรือ อวัยวะของเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี เมื่อไม่ได้ใช้คาร์ซีท นี่ไม่ได้เป็นเรื่องของการคาดการณ์ว่าจะเกิด แต่เป็นเรื่องที่เกิดขี้นจริง มีสถานการณ์ตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว มีทั้งเด็ก ๆ ที๋โชคดี รอดชีวิตแม้เกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเคสที่จะโชคดีแบบนั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขี้น อยากขอให้พ่อแม่ทุกท่าน ใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กกันนะ

ตัวอย่างทารกที่ไม่ได้นั่งคาร์ซีท จากการทดสอบ การชน

 

แวะดูกฎหมายกันอีกที เกี่ยวกับคาร์ซีท เนื้อกฎหมาย ว่าไว้อย่างไร 

“คาร์ซีท” ที่นั่งนิรภัย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกกฎหมายเพื่อความปลอดภัย ว่าด้วยการกำหนด ที่นั่งนิรภัยที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก และวิธีป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.2566 เป็นต้นไป

กำหนดให้เด็ก อายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่ง ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ส่วนรถรับจ้าง และ รถสาธารณะ ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องมีคาร์ซีท

นอกจากนี้ ยังให้รายละเอียดเรื่องที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กมี 2 แบบ คือ ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ และ ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ โดยต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรณีใช้ที่นั่งพิเศษแบบที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง ต้องมีระบบยึดเหนี่ยวตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

ส่วนกรณีประชาชนที่ไม่มีคาร์ซีท แต่มีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีนั่งในรถด้วย ต้องปฏิบัติตามหลักทั้ง 3 ข้อ จึงจะถือว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับยกเว้นไม่ต้องมีคาร์ซีท

  1. ขับรถด้วยความเร็วช้าโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และต้องขับชิดซ้าย
  2. ให้เด็กนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง หากเป็นรถกระบะ หรือกึ่งกระบะให้นั่งโดยสารตอนหน้าได้ แต่ห้ามนั่งท้ายกระบะ
  3. จัดให้มีผู้ดูแลเด็กในขณะโดยสาร หรือให้เด็กรัดเฉพาะเข็มขัดรัดหน้าตัก (อย่างใดอย่างหนึ่ง)

อย่างไรก็ตาม หากละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

Ref : เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง “คาร์ซีท” ยกเว้นรถรับจ้าง-รถสาธารณะ | Thai PBS News ข่าวไทยพีบีเอส

 

การชนด้านข้างคาร์ซีท – 

สิ่งที่เราพบเห็นจากเรื่องของการชนนั้น เรามักจะเห็นการทดสอบ การชนของรถที่ด้านหน้า เป็นลักษณะของการชนประสานงา หรือ ชนกำแพง ทำให้เห็นลักษณะว่าเมื่อเกิดการชนด้านหน้าขึ้นนั้นเด็กที่นั่งคาร์ซีท และ ไม่นั่ง จะมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร เมื่อเกิดการชนขึ้น และ แน่ๆ เลยว่า จะต้องมีคำถามเกิดขึ้นว่า เอ้า แล้วถ้ามีการ test แต่การชนด้านหน้า แล้วถ้าเหตุการณ์มันเป็นการชนด้านข้างละ หรือ ชนกลางลำของรถละ จะเป็นอันตรายแค่ไหน กับเด็ก ๆ ซึ่งถ้าชนกันด้านข้างนี่ ภาพอาจจะดูน่ากลัวมากกว่า ชนกันข้างหน้าอีก (ไม่นับกรณีประสานงากับสิบล้อ) เพราะว่า การชนด้านข้างคาร์ซีทนั้น เหมือนพื้นผิวรับแรงนั้น จะน้อยกว่า เพราะหลังจากประตูก็คาร์ซีทเลย ถ้าเป็นการชนกับด้านหน้านั้น ยังมีกระโปรงรถ มีตัวเครื่อง ไหนจะถุงลมนิรภัยด้านหน้าอีก มองยังไงก็น่าจะปลอดภัยกว่าการชนด้านข้าง

เห็นได้ชัดเลยว่าการถูกชน จากด้านข้างนั้น ดูน่ากลัวกว่ามาก เพราะจะเห็นได้ว่าหุ่นนั้นเหมือนไม่ได้การปกป้องจากอะไรเลย ผ่านประตูมา ก็เข้าถึงตัวผู้ขับขี่เลย แล้วถ้าเป็นลูกน้อยละ พ่อแม่จะต้องเป็นห่วงขนาดไหน

รอบนี้เรามาดูกันบางว่า ถ้าเกิดการชน เมื่อมีเด็กนั่งอยู่บนคารืซีท แต่เป็นการชนจากทางด้านหน้า และ การโดนชนจากด้านข้าง โดยเด็กนั่งคาร์ซีท จะมีภาพเป็นอย่างไร 

การชนจากด้านหน้า เมื่อนั่งคาร์ซีท

เห็นภาพจากการชนด้านหน้าแล้ว จะพบว่าเมื่อเด็กนั่งคาร์ซีทแล้ว ค่อนข้างปลอดภัยเลย สำหรับเด็ก ๆ ทั้งแบบหันออก และ หันหลังออก เด็กยังติดอยู่กับคาร์ซีท ไม่ได้กระเด็นหลุดออกมา ทั้งการขยับของร่างกาย ก็อาจจะไม่ได้เยอะมาก เมื่อเกิดเหตุจริงนั้น อาจจะได้รับการฟกช้ำ หรือ จุกบริเวณร่างกายบ้าง แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิตแน่นอน ถ้าไม่ได้อัด Copy แรงจริงๆ 

 

การชนจากด้านข้าง เมื่อนั่งคาร์ซีท

 

Test by Chicco KeyFit 30

Test By Recaro Car Seat

ได้เห็นแบบนี้แล้ว ค่อนข้างโล่งใจว่า เมื่อเกิดการชนจากด้านข้างนั้น คาร์ซีท จะเป็นผู้ปกป้องเด็ก ๆ ไว้ได้แน่นอน เพราะดูจากทั้งสองเคสแล้วนั้น เด็ก ๆ มีกระแทกเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว ยังถือว่าหุ่นดัมมีนั้น ยังอย่ในสภาพใกล้กับปกติมาก ๆ เมื่อเกิดการชนด้านข้างขึ้นจริง 

 

ในเมื่อการชนด้านข้างนั้น ดูเป็นอันตราย และ น่ากลัวกว่าการชนด้านหน้าเป็นอย่างมาก คาร์ซีท ชั้นนำนั้น ในเทคโนโลยีอะไร กับ การชนด้านข้างคาร์ซีท ให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ยังปลอดภัย 

เรามาดูกันดีกว่า ว่าเทคโนโลยีการป้องกันการชนด้านข้างของแต่ละแบรนด์ เป็นอย่างไรบ้าง ? 

 

 

Chicco Nextfit Zip Max | Newborn To 29.5kg - Atmos - Alpro Pharmacy Chicco

DuoGuard® Technology

DuoGuard® ให้การป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง 2 ชั้น

ชั้นแรก ประกอบไปด้วยวัสดุที่เป็นเหมือนเปลือกแข็ง หนา ทนทาน

เพิ่มเติมชั้นในด้วยโฟมดูดซับพลังงาน EPS 

  • โดยเป็นโฟมที่มีน้ำหนักเบา
  • ดูดซึมน้ำได้ต่ำมากๆ
  • ไม่ลามไฟ
  • ติดตั้งแล้วปรับเปลี่ยนได้ง่าย
  • แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก 2 ตัน / ตารางเมตร

โครงคาร์ซีทและเบาะยังเสริมโครงเหล็กอีกด้วย ทำให้มั่นใจว่าแข็งแรง และ ปกป้องจากการชนด้านข้างได้แน่นอน

RECARO

ADVANCED SIDE PROTECTION (ASP)

แผ่นที่ช่วยเพิ่มป้องกัน ที่ถูกสร้างมาในตัวสามารถเด้งออกเพื่อที่จะยันบริเวณด้านข้างประตูได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เด้งแบบอัตโนมัติ ในกรณีที่เกิดการชนด้านข้าง ตัวดูดซับพลังงานจะลดแรงที่จะกระทำต่อเด็ก และ คาร์ซีท การผสมผสานระหว่างตัวคาร์ซีท โครงสร้างที่นั่ง และปีกด้านข้าง ให้การป้องกันสามเท่าจากการชนด้านข้าง ในทุกมิติ

MAXI-COSI

G-Cell Technology

G-cell เป็นชุดของเซลล์หกเหลี่ยมที่สร้างขึ้นที่ด้านข้างของคาร์ซีท หากมีการชน เซลล์ที่มีรูปร่างพิเศษเหล่านี้จะกระจายแรง G ที่เกิดจากการกระแทก ออกจากร่างกายของเด็ก พูดง่ายๆ ก็คือ มันทํางานเหมือนกับโซนกันชนรถด้านข้างของรถคุณ ที่ผลิตให้มา โดยให้การดูดซับแรงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นความเสียหายน้อยลง จากโฟมซับแรงลักษณะรูปทรง 6 เหลี่ยม

 

Cozy N Safe

Side Impact Protection

การป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง
คาร์ซีท Morgan i-Size มาพร้อมระบบป้องกันการกระแทกด้านข้างเพิ่มเติมเข้ามาในตัวคาร์ซีท ระบบป้องกันการกระแทกด้านข้าง เป็นปุ่มแบบเด้งออก เปิดออก เพิ่มโอกาสในการป้องกันการกระแทก ลักษณะป้องกันคล้ายสปริงซับแรง ที่จะช่วยปกป้องบุตรหลานของคุณในกรณีที่เกิดการชนด้านข้าง

 

นี่เป็นส่วนหนึ่ง ของการป้องกันของแบรนด์คาร์ซีท ที่มีเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาโดยเจ้าของแบรนด์ ซึ่งแข่งขันกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่า คาร์ซีทของพวกเขา จะปลอดภัยต่อเด็กที่สุด เมื่อได้รับการใช้งาน นับว่าเป็นข้อดีของพ่อแม่ ยิ่งเทคโนโลยีดีมากเท่าไหร่ ความปลอดภัยยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ไว้วางใจได้ว่า เมื่อเลือกผลิตภัณฑ์แล้ว จะไม่ผิดหวัง และ เป็นที่แน่นอนว่า ทุกเทคโนโลยีที่เรายกมานั้น ได้ผ่านการตรวจสอบ จากสถานบันตรวจสอบมาตรฐานการใช้งานคาร์ซีทแล้วอย่างแน่นอน ผ่านการทดสอบทุกกฎ ทุกส่วนของมาตรฐานที่จะได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ หรือ ระดับโลกแล้วเป็นที่เรียบร้อย ส่วนพ่อแม่จะชอบแบบไหน ลายไหน อันนี้แล้วแต่เลือกจ้า