การนอนของทารก ตารางการนอนหลับ : ทำอย่างไรให้หลับเป็นเวลา
พ่อแม่ของเด็กแรกเกิดทุกคน คงคิดว่าตัวเองเป็นผู้โชคดีหาก การนอนของทารก ที่เป็นลูกของพวกเขา
เป็นไปตาม ตารางการนอนหลับ และทำเป็นกิจวัตร โดยไม่ผิดเพี้ยน เกิดมาเป็นเด็กหลับง่าย ไม่กวนพ่อแม่ตอนดึก
นอนได้ตามเวลาที่ต้องการ เพราะทารกแรกเกิด คงไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่า กิน และ นอน อาจจะมี่ช่วงเวลานอนมึน ๆ
ดูโมบายบ้าง หรือ ไม่แน่ ก็อาจจะร้องไห้ทั้งวัน ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า และ ไม่มั่นใจ ว่าดูแลเขาได้ดี
ข่าวดีก็คือ มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้ สำหรับ การนอนของทารก
เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของคุณพัฒนานิสัยการนอนหลับที่ดี ทุกอย่างเริ่มต้นด้วย ตารางการนอนหลับ
เหตุใด ตารางการนอนหลับ จึงมีความสำคัญ?
แค่เรื่องอาหาร หรือ การให้นม การเปลี่ยนผ้าอ้อม และการดูแลทารกแรกเกิดโดยทั่วไป
นับประสาอะไรกับการกำหนดตารางการนอนหลับ ให้เป็นเวลาประจำ สำหรับลูกน้อยของคุณ
อาจจะยากไม่หน่อย แน่นอนว่าอาจจะถึงยากมาก แต่คุ้มค่าแน่นอน
แล้ว การนอนของทารก แรกเกิด นอนนานขนาดไหน ?
จากการอ่านบทความเรื่อง Babies And Sleep New WindowNational Sleep Foundation ทารกที่มีอายุระหว่าง
- ทารกอายุ 0-3 เดือน ควรนอนหลับระหว่าง 14-17 ชั่วโมงต่อวัน
- ทารกอายุ 4-12 เดือน ควรนอน 12-16 ชั่วโมงต่อวัน
- ในช่วงอายุ 1-2 ขวบ ควรนอนประมาณ 11-14 ชั่วโมงต่อวัน
ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขในฝันชัด ๆ หากคุณมีลูก คุณก็ทราบดีว่าพวกเขามักจะนอนหลับในช่วงเวลาสั้นๆ
ระหว่าง 2-4 ชั่วโมง ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับพ่อแม่หรือผู้ดูแล ที่คาดหวังจะพักผ่อนให้เต็มคืน เพราะตื่นเรื่อย ๆ แน่นอน
การจัดการ ตารางการนอน ของทารก ช่วยเรื่องอะไรบ้าง:
- รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายมากขึ้น
- ไม่ว้าวุ่น
- หลับเร็วขึ้น
- นอนหลับได้นานขึ้นและสบายยิ่งขึ้น
- ตื่นน้อยลงในตอนกลางคืน
บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนทารกแรกเกิด ไม่มีวันเรียนรู้ ที่จะนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน
แต่การจัดตารางเวลาการนอนหลับเป็นก้าวแรกสู่การนอนหลับยาวทั้งคืน และ ทั้งยังส่งเสริมนิสัยการนอนที่ดี
ไปตลอดชีวิตอีกด้วย ตารางการนอนหลับของทารกแรกเกิด ที่มั่นคง สม่ำเสมอ
จะช่วยให้คุณวางแผนวันของคุณได้ง่ายขึ้น และ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันจะช่วยให้ลูกน้อยของคุณ พัฒนาความสามารถในการปลอบปละโลมใจตัวเอง
และนอนหลับได้เอง ในความเป็นจริง เด็กที่นอนหลับเพียงพอเป็นประจำ
มีแนวโน้มที่จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แงแรง รวมถึงความจำ พฤติกรรมโดยรวมดี และสุขภาพจิต ที่ดีกว่าเด็กที่อดนอน
ตามรายงานของ Read The Healthy Sleep Habits Article New WindowAmerican Academy of กุมารเวชศาสตร์ (AAP)
คุณควรเริ่มฝึกเมื่อใด?
ทารกที่เพิ่งเกิดมานั้น ยังไม่มีคสามสามารถในการควบคุมรูปแบบการนอนได้แบบผู้ใหญ่ การหายใจ
การจัดการการเต้นของหัวใจ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน
อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุได้ 4-6 เดือน จังหวะการเต้นของหัวใจของลูกน้อยจะเข้าสู่ภาวะปกติ จะเข้าใจเรื่องของวันเวลา
กลางวันกลางคืนมากขึ้น (รู้เวลาในการนอนหลับ) และ เวลาสำหรับกินอาหารของทารก
ก็เข้าใจเวลาได้ดียิ่งขึ้นด้วย ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการนอนหลับได้นานขึ้น ก็ดีขึ้น
แน่นอนว่าทารกทุกคน มีความแตกต่างกัน บางคนอาจพร้อมสำหรับการฝึกการนอนหลับ เร็วขึ้นเล็กน้อย
ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อคุณคุ้นเคยกับสัญญาณ เกี่ยวกับความหิวและการนอนหลับของพวกเขามากขึ้น
การออกแบบตารางการนอนหลับที่เหมาะกับครอบครัวของคุณก็จะง่ายขึ้น
หากคุณไม่แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณพร้อมหรือไม่ ให้ตรวจสอบกับกุมารแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
ตารางการนอนหลับใหม่ของลูกน้อย: เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
ความพร้อม และ ตั้งใจ
หากคุณพร้อมที่จะเริ่มจดจ่อ กับการจัดการตารางการนอนหลับของลูกน้อย ก็มีโอกาสที่ดี
ที่พวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยน เริ่มแชร์ห้อง (แต่ไม่ใช่เตียง) ร่วมกับลูกน้อยของคุณจนกว่าพวกเขาจะอายุ 6 เดือน
เพื่อลดความเสี่ยงของโรคการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของทารก (SIDS) ได้ถึง 50% .
SIDS เป็นที่รู้จักในอดีตว่าเป็นการเสียชีวิตของทารก คือการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน และ ไม่ทราบสาเหตุของทารก
ที่มีสุขภาพดี และ อายุต่ำกว่า 1 ปี การใช้มาตรการสภาพแวดล้อมการนอนหลับที่ปลอดภัย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยง SIDS
ดังนั้นหากลูกน้อยของคุณอายุต่ำกว่า 6 เดือน คุณควรตั้งเปลใหม่ไว้ในห้องของคุณก่อน
การนอนของทารก เวลาการนอน
กิจวัตรก่อนนอนของคุณเป็นสิ่งสำคัญ สร้างกิจวัตรการเข้านอนที่สม่ำเสมอ
เพื่อให้ทารกของคุณสามารถเรียนรู้ที่เวลาการนอนที่ถูกต้อง รวมไปถึงเวลาการกินข้าว
หรือ ช่วงเวลาอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องฝึก การอาบน้ำอุ่น หนังสือ และช่วงเวลาเล่นกับคุณ
สังเกตนิสัยการนอนและการตื่นของลูก ลองเก็บบันทึกการนอนหลับเพื่อให้คุณมีภาพรวมของรูปแบบการนอน
และ การตื่นตามธรรมชาติของลูก และใช้ข้อมูลนี้เป็นฐาน ในการจัดตารางเวลาการนอนหลับของคุณด้วย
สังเกตสัญญาณการนอนหลับ ทารกแรกเกิดมักจะส่งสัญญาณการง่วงนอน เช่น ด้วยการเริ่มขยี้ตา
หรือใบหน้า การมองอย่างเหม่อลอยไปบนฟ้า หรือเริ่มส่งเสียง เรารับรู้ได้
เมื่อคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้ ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มเวลางีบหลับ หรือ กิจวัตรเข้านอนของคุณ
โครงสร้างตลอดทั้งวัน แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่การจัดตารางเวลาการนอนหลับเพียงอย่างเดียว
ให้ลองจัดการให้เวลาต่าง ๆ ผสมผสานให้ลงตัวกับช่วงเวลานอนของทารกพอดี เพื่อช่วยให้คุณจัดการ
หรือ ทำสิ่งอื่น ๆ ในช่วงเวลาที่เด็กหลับได้ด้วย แต่แนะนำให้เดินรอบๆ บริเวณใกล้เคียงกับเด็กนอน
เด็กทารกจะรู้สึกสบายใจ และ การกำหนดเวลากลางวันที่สม่ำเสมอเป็นประจำ (ส่วนใหญ่) ช่วยทำให้การจัดการชีวิตคุณดีขึ้น
เมื่อเค้าตื่น อย่าปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว ดูแลตัวเอง เมื่อคุณพาลูกน้อยงีบหลับ หรือนอนหลับ หากเค้าตื่น
และ คุณได้ยินเสียง ไม่ต้องรีบร้อน เพื่อเข้าถึงตัวทันที ลองพักสักครู่หนึ่งหรือสองนาที
เพื่อดูว่าพวกเขาสามารถปลอบใจตัวเองได้หรือไม่ (หากสามารถนอนหลับต่อได้ด้วยตัวเอง ถือเป็นการดี)
หากลูกน้อยของคุณดูไม่สบายใจ ไม่สบายตัว ลองพิจารณาการดูแลพวกเขาโดยไม่ต้องอุ้มขึ้นมาจากที่นอน
เพื่อให้พวกเขารู้ว่าคุณอยู่ที่นั่น ช่วยฝึกความผ่อนคลาย และ การนอนหลับต่อด้วยตัวเอง
หากการวางตารางการนอนที่ทำขึ้นมา ดูไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ อย่าลังเล จัดการปรับตาราง
ให้เข้ากับชีวิตของคุณกับลูกมากที่สุด บางครั้งการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยในทิศทางที่ถูกต้อง
เพื่อทำให้ตารางการนอนหลับของคุณเป็นไปตามแผน
ทารกแรกเกิดมีสัญชาตญาณที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นหากคุณรู้สึกเครียดเกี่ยวกับเวลานอนของทารก
พวกเขาจะรับความวิตกกังวลของคุณ และ รู้สึกเครียดเช่นกัน พยายามสงบสติอารมณ์
และ อดทนให้ดีที่สุดในขณะที่คุณพยายามทำให้ลูกน้อย นอนตามกำหนดเวลา จำไว้ว่า
คุณทำได้ดีมากแล้ว อย่ากดดันมากจนเกินไป ค่อยๆกล่อมลูกน้อยอย่างใจเย็น
ลูกน้อยของคุณจะนอนหลับ และ ตื่นอย่างมีความสุขตามกำหนดเวลาที่สม่ำเสมอ
ความคิดสุดท้าย
หากคุณเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการฝึกการนอนหลับ ของทารกแรกเกิด เราแสดงความเคารพคุณด้วยหัวใจ
การสอนลูกน้อยให้มีนิสัยการนอนที่ดี และ การผ่อนคลายตนเองไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่เป็นรากฐานของการนอนหลับที่ดีไปตลอดชีวิต
เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น คุณก็จะได้บ้านที่เหมาะสำหรับพักผ่อนมากขึ้นสำหรับทุกคน
Cr. Chicco USA : Newborn Sleep Schedule
Chicco Next2Me Forever เตียงนอนเด็ก 3 in 1 ใช้งานได้ยาวนาน ตั้งแต่ทารกวัยแรกเกิดถึง 4 ขวบ เพื่อให้ลูกน้อยนอนหลับสบายและปลอดภัยสูงสุด ด้วยคุณสมบัตรพิเศษของรุ่นนี้ได้มีรับการจดสิทธิบัตร ให้ผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียวที่สามารถใช้งานได้ถึง 3 แบบ และปรับสูงต่ำได้ตามต้องการ ได้แก่ สามารถเปิดด้านข้างเพื่อตั้งข้างเตียงผู้ปกครองได้ สามารถเป็นเตียงนอนเด็กโดยมีที่กันรอบข้าง และสามารถถอดขาเตียงเพื่อวางบนพื้นเหมาะสำหรับเด็กวัยหัดเดิน
|